The Cafe Apartment

 "คาเฟ่อพารท์เมนท์" (The Cafe Apartment) แห่งนี้  ถ้าใครไปโฮจิมินห์ซิตี้ แล้วไม่แวะไปที่คาเฟ่แห่งนี้แสดงว่า ยังไม่ถึงโฮจิมินห์อย่างแท้จริง และถ้าเพื่อนๆ อยากดื่มด่ำไปกับกาแฟที่นี่ คือ คำตอบ สำหรับ "คอคนรักกาแฟเวียดนามอย่างแท้จริง" ประวัติความเป็นมาของที่นี่ของย้อนไปเมื่อปี ค.ศ .1950 ช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 สถานที่นี้ใช้เป็นที่พักของเหล่าทหาร ของทางรัฐบาล แต่ปัจจุบันมีการรีโนเวทใหม่ให้กลายเป็น The Cafe Apartment  9  ชั้น อยู่บนถนน 42 Nguyen Hue Street  ถ้ามองจากระยะไกลจะเห็นว่าอาคารนี้เหมือนกล่องช็อคโกแลตสี่เหลี่ยม สอดไส้ต่างๆ ถ้าใครยังนึกภาพไม่ออกดูรูปตามข้างล่างได้เลยนะ
The Cafe Apartment
ถนนตรงบริเวณนี้ เคยถูกบูรณะขึ้นมาใหัตัดตรงความยาว 700 เมตร  เป็น Walking street ที่ถอดตัวจากหน้าศาลว่าการโฮจิมินห์ซิตี้ ไปยังท่าเรือบักดัก สภาพถนนโดยทั่วไปคล้ายกับ  ถนนชองเซลิเซ่ที่ปารีส  มีแค่ให้รถโดยสารสามารถวิ่งผ่านไปมาได้แค่ ตรงทางคู่ขนานทั้งสองฝั่ง ตรงกลางเป็นลานกว้างเพื่อทำให้เป็นถนนคนเดินอย่างแท้จริง โดยทั้งสองข้างลานติดถนนมีต้นไม้ประดับเรียงราย โดยในแต่ละชั้นมีทั้งร้านกาแฟ ร้านอาหาร ร้านเบเกอรี่ และร้านเสื้อผ้า ที่ตกแต่งหลายหลากไตล์ บ้างออกแนว โมเดริ์น วินเทจ   แถมทางด้านข้าง The Cafe Apartment  จะมีร้านขายหนังสือ  Fahasa Bookstore เป็นทางเล็กๆ
คาเฟ่เก๋ๆ บน The Cafe Apartment
โดยแต่ละขั้นจะเชื่อมกับบันไดวน ที่ทำจากหินเก่า สไตล์วินเทจ  แต่ถ้าไม่อยากออกกำลังกายขึ้นบันไดล่ะก็ สามารถโดยสารลิฟท์ขึ้นมาได้ มีค่าบริการเล็กน้อย 3,000 ดง ประมาณ 4บาท ทางขึ้นตรงบันไดของตึกส่วนใหญ่ในเวียดนาม มักจะเป็นช่องทางแคบๆ เพราะบ้านเมืองเค้ามีพื้นที่น้อย จึงมีพื้นที่ใช้สอยที่จำกัดโดยใช้ให้คุ้มค่าที่สุด เน้นสร้างอาคารตึกที่เป็นสูงๆ เท่าที่สังเกตจะเป็นแบบนี้ทั้งประเทศเเวียดนาม
               
ทางขึ้นคาเฟ่ อพาร์เมนท์
แต่ละชั้นก็จะมีร้านที่มีไตล์แตกต่างกันไป โดยทาง Vietnamese Fan ได้รวบรวมข้อมูลการรีวิวร้านทั้ง 9ชั้น มาให้เพื่อนๆทราบพิกัดกัน และความน่าสนใจของแต่ละร้านดังนี้
ชั้นหนึ่ง มีร้านขายเสื้อผ้าและร้านขายของกระจุกกระจิก ร้าน" The Maker"  เป็นร้านเดียวที่อยู่ในชั้นนี้ ภายในตกแต่งด้วยผนังสีขาว และดวงไฟห้อยระย้าไปจนถึงผนังสีขาว ต่อมา
ชั้น2 "Chicbae" เป็นร้านขายเสื้อผ้า ข้างๆร้านมีร้านเสริมสวยชื่อ "Beauty Secret " และเมื่อมองไปทางซ้ายของขั้นบันได จะเจอร้าน "Saigon Veuex " เป็นร้านกาแฟที่ตกแต่งสไตล์โมเดริ์น
 ชั้น3 ถือว่าเป็นไฮไลท์ของตึกเลยก็ว่าได้ เพราะมีร้านขายกาแฟ เครื่องประดับและของหวาน โดยเริ่มจาก ร้าน "Baddest Blue " ร้านเสื้อผ้าที่มีชื่อเสียง ต่อมาเพื่อนๆจะพบกับ ร้านเครื่องประดับ Skimmer Sliver และร้านที่อยากจะแนะนำก็คือ ร้าน" Mango Tree" เป็นร้านที่ขายของหวานโดยเน้น เมนูเน้นมะม่วงเป็นหลักตามชื่อร้าน  และเพื่อนๆจะเดินมาถึงร้านสุดท้าย คือ ร้าน " The maker "เป็นคาเฟ่ที่กว้างขวาง ร้านตกแต่งภายในแบบIndustrial  มีรูปแบบอิฐและตกแต่งด้วยสีขาว โดยมีทั้งเครื่องดื่มและของหวานกาแฟสไตล์ตะวันตก มีความพิเศษคือ ทางร้านมีระเบียงขนาดใหญ่ให้ลูกค้าได้ชมวิวทิวทัศน์ Walikng street ด้านล่าง
 ชั้น4 เริ่มจากร้านเสื้อผ้า ชื่อ ร้าน "Maison  De Jenny " และร้าน" Cosette " อีกฝั่งของร้านจะมีร้าน "Mekkong Pizza" ตกแต่งด้วยโคมไฟสไตล์จีน  เมนูโดดเด่น คือ อาหารสไตล์ พิซซ๋า และ พาสต้า แถมราคาไม่แพงอย่างที่คิด ร้านที่แนะนำต่อมาคือร้าน"Thinker &Dreamer" ภายในตกแต่งและเต็มไปด้วยกระถางต้นไม้  ทำให้เพื่อนๆรู้สึกว่ากำลังอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ และเต็มไปด้วยบรรยากาศที่โรแมนติก ร้านไฮไลท์ของชั้นนี้คือ ร้าน "Partea English tearoom" เป็นร้านที่ตกแต่งสไตล์อังกฤษ  เป็นร้านขายชาที่ตกแต่งด้วยถ้วยชาและกระปุกต่างๆที่ไม่เหมือนใคร เมนูเด็ดที่นี่คือ เค้กชาครีมหนานุ่มราดสตอเบออร์รี่  ห้ามพลาดเด็ดขาด
ชั้น 5-9  แนะนำร้านเด็ด คือ ร้าน "Boo Coffee" ร้านนี้มีอยู่ 2ชั้น คือ ชั้น 8และ 9  เป็นร้านชานมไข่มุกแสนอร่อย และในส่วนที่เหลือก็มีร้านดีๆที่ให้เพื่อนๆได้ทั้ง ช้อปปิ้ง มีทั้งร้านเสื้อผ้าแฟชั่น ร้านอาหารและคาเฟ่ เป็นแหล่งศูนย์รวมของวัยรุ่นพบปะสังสรรค์ ที่เรียกว่า คอมมูนิตี้เล็กๆก็ว่าได้
    ใครไปโฮจิมินห์ซิตี้ อย่าลืมแวะไป The Cafe Apartment เตรียมท้องให้ว่าง เพื่อชิมขนมเค็ก และดื่มกาแฟ เก็บรรรยากาศ ชิลๆ พร้อมถ่ายรูปให้ครบทั้ง 9ชั้นนะ เจอกันใหม่ตอนหน้าค่ะ

Comments