โบราณสถานหมีเซิน (Mỹ Sơn)

  " โบราณสถานหมีเซิน (Mỹ Sơn) "เป็น โบราณสถานใน จังหวัด กว๋างนาม  ซึ่งเป็นจังหวัดหนึ่งของประเทศเวียดนามซึ่งเป็นที่ราบตามแนวชายฝั่ง โดยทางทิศตะวันตกติดกับประเทศลาว อยู่ทางภาคกลางของประเทศเวียดนาม สร้างด้วยศิลปะจามโบราณในสมัยศตวรรษที่ 4-15 ด้วยระยะเวลายาวนานกว่า โบราณศาสนาฮินดูที่เก่าแก่และสมบูรณ์ที่สุดในอินโดจีน นอกจากนี้  "โบราณสถานหมีเซินยังได้รับการลงทะเบียนเป็นมรดกโลกในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญครั้งที่23" เมื่อปี พ.ศ .2542 อีกด้วย

โบราณสถานหมีเซิน (Mỹ Sơn)

   ในอดีตปราสาทแห่งนี้ ก่อสร้างที่หลงเหลือมาจากอาณาจักรจามปาหรือช่วงศตวรรษที่ 4-15 สะท้อนให้เห็นถึงสถาปัตยกรรมของฮินดูที่เก่าแก่และสมบูรณ์ที่สุด ปราสาทแห่งนี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธฺ์สำหรับบูชาพระศิวะ นอกจากนี้แล้วยังมีรูปปั้น วัด ที่รายล้อมโดยในสมัยก่อนมีสิ่งก่อสร้างโบราณกว่า 70 หลัง แต่ในช่วงสงครามเวียดนามโบราณสถานฮินดูนี้ถูกระเบิดตกใส่ไปหลายแห่ง ในสมัยของประธานาธิบดีนิกสัน จนปัจจุบันเหลืออยู่เพียง 22แห่งเท่านั้น   หลังจากสิ้นสุดสงคราม ชาวเวียดนามก็ไม่กล้าเข้ามาที่บริเวณโบราณสถานแห่งนี้ เพราะเกรงว่าจะมีระเบิดหลงเหลือ จนทหารเยอรมนีเข้ามาให้ความช่วยเหลือในการทำความสะอาดและเคลียร์พื้นที่  ชาวเวึยดนามจึงกล้าเข้ามาบ้าง

   กลุ่มวิหาร หรือ โบราณสถาน เป็นแหล่งศาสนสถานของชาวจามที่มีอายุมากกว่า  1,600 ปี เป็นปูชนียสถานที่ใหญ่ที่สุด และมีความสำคัญที่สุดของอาณาจักรจามปาตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 -15  สถานที่อันศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ยังเป็นที่ฝังศพของกษัตริย์จาม หมี่เซินยังมีความเกี่ยวพันกับนครวัดของกัมพูชา เพราะหลังจากที่ชาวจามสร้างแหล่งศาสนาแห่งนี้เสร็จแล้ว ก็มีการสร้างนครวัดต่อ "ดังนั้นหมี่เซินจึงมีความเก่าแก่มากกว่านครวัด"


  นอกจากนี้ กลุ่มปราสาทหมี่เซิน ตั้งอยู่ใจกลางหุบเขากว้าง ซึ่งเป็นที่ราบต่ำ ที่ถูกรายล้อมไปด้วยภูเขาขนาดใหญ่ ตรงใจกลางมีลำธารไหลผ่าน หุบเขานี้มีลักษณะคล้ายโยนี มีภูเขาลูกใหญ่ก็มีลักษณะคล้ายกับศิวลึงค์หรือสัญลักษณ์เพศชาย ลำธารที่ไหลก็เหมือนกับแท่นบูชา ชาวจามเลือกสถานที่แห่งนี้เพื่อสักการะเทพเจ้าของฮินดู "โบราณสถานหมี่เซินถือว่าเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของชาวจาม" 
การทำอิฐของชาวจาม
   นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมเยือนที่นี่ส่วนมากเป็นชาวต่างชาติ มีแค่ชาวเวียดนามแค่ร้อยละ 30 เท่านั้น  ส่วนวัฒนธรรมของทำอิฐของชาวจาม ที่เอาก้อนอิฐมาประกบกันจนเป็นสิ่งก่อสร้างที่งดงามที่เห็นดังในรูป ยังไม่มีใครทราบวิธีการก่อสร้างวิหารอย่างแน่ชัด และยังคงมีความลับและปริศนาของชาวจามที่ซ่อนอยู่อย่างลี้ลับ  "โบราณสถานแห่งนี้ เป็นมรดกในอดีตที่สะท้อนความรุ่งเรืองของอาณาจักรจามปาเมื่อพันปีก่อน "และปัจจุบัน ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ทำให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกหลั่งไหลมาเข้าชมศิลปะโบราณที่สมบูรณ์และสวยงามของชาวจาม

Comments