โรงละครหุ่นกระบอกน้ำ (Water Puppet)

 วันนี้ Vietnaesme Fan จะพาไปรู้จักกับ "โรงละครหุ่นกระบอกน้ำ" (Water Puppet) ที่ฮานอย ประเทศเวียดนาม  ซึ่งเป็นการแสดงศิลปะประจําชาติ นั่นคือ หุ่นกระบอกน้ำ (Water Puppet) ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของวัฒนธรรมพื้นบ้านของชาวเวียดนาม โดยเฉพาะหากมาถึงเมือง ฮานอย โดย คณะ Thang Long Water Puppet Theatre โดยเริ่มก่อตั้งและแสดงมาเกือบ 50 ปี (ตั้งแต่ พ.ศ. 2512)

 

"หุ่นกระบอกน้ำ "เป็นศิลปกรรมประจำชาติ "เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่นเป็นการละเล่นที่มีอยู่เพียงแห่งเดียวในโลก " ผู้เชิดหุ่นจะยืนอยู่หลังฉากในน้ำที่สูงถึงระดับเอว และควบคุมการเคลื่อนไหวของหุ่นกระบอกด้วยไม้ไผ่ลำยาว เชิดจากในน้ำผสมผสานกับเสียงบรรเลงของเครื่องดนตรีเวียดนามและพากย์สดๆ ของคณะละคร สำหรับน้ำที่ใช้ในการแสดงนั้นจะมีสีขุ่นเพื่อไม่ให้เห็นอุปกรณ์ทีอยู่ใต้น้ำ โดยมักจะนำเสนอเรื่องราววิถีชีวิตพื้นบ้านตามชนบทของชาวเวียดนามที่ผูกพันอยู่กับสายน้ำ ขนบธรรมเนียม ประเพณีและวัฒนธรรมของชาวเวียดนาม และวิถีชาวบ้าน เช่นการเพาะปลูก การเก็บเกี่ยวพืชผล การตกปลา การแข่งเรือ ซึ่งการแสดงทั้งหมดใช้หุ่นกระบอกน้ำ เมื่อแสดงจบผู้แสดงได้ออกมาโชว์ตัวเรียกเสียงตบมือได้เป็นอย่างดี การแสดงหุ่นกระบอกน้ำมีจุดเริ่มต้นที่"บริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแดง "

ดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแดง (เวียดนาม: Đồng bằng sông Hồng) เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ปลายน้ำของแม่น้ำแดง ทางตอนเหนือของประเทศเวียดนาม ครอบคลุม 8 จังหวัด กับ 2 เทศบาลนคร ได้แก่ จังหวัดบั๊กนิญ, จังหวัดห่านาม, จังหวัดหายเซือง, จังหวัดฮึงเอียน, จังหวัดนามดิ่ญ, จังหวัดนิญบิ่ญ, จังหวัดท้ายบิ่ญ, จังหวัดหวิญฟุก, เทศบาลนครฮานอย และเทศบาลนครไฮฟอง พื้นที่ส่วนใหญ่ใช้ในการปลูกข้าว

 จากการที่บริเวณนี้มีน้ำท่วมทุกปี จึงทำให้เกิดแรงบันดาลใจในการคิดค้นการละเล่นขึ้นมาเพื่อสร้างความบันเทิงระหว่างที่น้ำท่วมเป็นเวลานาน การแสดงหุ่นกระบอกน้ำไม่มีการพากย์ด้วยภาษาอื่น แต่ท่าทางของหุ่นก็ทำให้ผู้ชมเข้าใจเรื่องราวได้เป็นอย่างดี

ที่มาของการแสดง หุ่นกระบอกน้ำ (Water Puppet) คือ

ศิลปะการแสดงหุ่นกระบอกน้ำ มีมากว่า 1,000 ปี  ซึ่งยาวนานมากๆ  ว่ากันว่า มีมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์หลีในตศวรรษที่ 11 บริเวณดินดอนสามเหลี่ยมลุ่มแม่น้ำซงโห่ง หรือแม่น้ำแดงบริเวณที่ราบลุ่มต่ำ พื้นที่บริเวณนี้น้ำจะท่วมภูมิภาคนี้อยู่สม่ำเสมอทุกปี  ช่วงนี้ท่วมชาวบ้าน ชาวไร่ ชาวนา ต่างไม่รู้จะทำอะไร จึงพากันคิดค้นศิลปะรูปแบบนี้ขึ้นมา จากการแสดงเล็กๆ จนกลายเป็นสิ่งที่ทุกหมู่บ้านต้องมีศิลปะการแสดงนี้  นอกจากนั้น เนื้อเรื่องที่แสดงหุ่นกระบอกน้ำยังผสมผสานระหว่างเทพเจ้าในตำนานกับความรักชาติ  จนเวลาผ่านไปหลายยุคสมัย ศิลปะการแสดงนี้ได้เริ่มหายไป เพราะนักเชิดหุ่นอาวุโสทั้งหลายยังไม่มีใครยอมถ่ายทอดวิชาให้คนรุ่นหลัง จนในที่สุดศิลปะการแสดงนี้ใกล้สูญหายจึงยอมถ่ายทอดให้  แต่ทุกวันนี้ มีคณะหุ่นเหลืออยู่ไม่มากนักในเวียดนาม

ประวัติความเป็นมาของการแสดงหุ่นกระบอกน้ำในเวียดนาม มีขึ้นตั้งแต่สมัยราชวงศ์ลี้ (Ly Dynasty (1010-1225) พบร่องรอยหลักฐานเกี่ยวกับศิลปะการแสดงชนิดนี้ที่ศาลาริมน้ำในจังหวัด       Ha Tay การแสดงดังกล่าวนี้ถูกพัฒนาขึ้นในลุ่มแม่น้ำแดง (M.H. Syed (Editorial Coordinator), 2007) ในอดีตนั้นเป็นการแสดงที่มีขึ้นและรับชมกันในหมู่บ้าน ต่อมามีการตั้งเป็นคณะเพื่อทำการแสดงเพื่อถ่ายทอด"ศิลปะอันเป็นอัตลักษณ์ของชาวเวียดนามที่มีมาตั้งแต่ครั้งบรรพบุรุษ "ทั้งนี้ในปัจจุบันมีคณะแสดงอยู่เป็นจำนวนไม่มาก ที่มีชื่อเสียงที่สุด คือ "คณะหุ่นกระบอกน้ำทังลอง" (Thang Long Water Puppet Theatre) ก่อตั้งขึ้นเมื่อ ค.ศ.1969 อยู่ในความดูแลของสำนักงานวัฒนธรรมกีฬาและการท่องเที่ยวฮานอย สถานที่แห่งนี้มีลักษณะคล้ายโรงละครตั้งอยู่ใจกลางเมืองฮานอยเมืองหลวงของเวียดนาม ถือเป็นสถานที่สำคัญในการดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ เนื่องจากภายในโรงละครสามารถรองรับผู้เข้าชมได้เป็นจำนวนมากถึง 500 คน มีเวทีการแสดงเป็นพื้นน้ำประกอบแสงสีเสียงทำให้ผู้เข้าชมรู้สึกตื่นตาตื่นใจ (Thang Long Water Puppet Theatre, 2016)  

    เนื้อหาในการแสดงนอกจากมีความเชื่อมโยงระหว่างความรักในเทพนิยายของชาวเวียดนามกับความภาคภูมิใจในความเป็นชาติแล้ว ยังนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับวิถีชีวิตการทำมาหากินของชาวเวียดนาม มีวิธีการในการนำเสนอเรื่องราวที่สะท้อนให้เห็นถึงความรู้สึกนึกคิดและทัศนะคติในการดำรงชีวิตของชาวเวียดนาม ทั้งยังแฝงไปด้วยอารมณ์ขัน ถือเป็นวิธีการนำเสนอที่ไม่เคร่งเครียดจนเกินไป หุ่นกระบอกน้ำเป็นการผสมผสานระหว่างความหลงใหลในเทพตำนานกับความรักชาติอย่างรุนแรงซึ่งปลูกฝังกันมาในจิตใจชาวเวียดนาม นักเชิดหุ่นกระบอกจะยืนอยู่หลังฉากในน้ำที่ท่วมถึงเอวแล้วควบคุมการเคลื่อนไหวของหุ่นด้วยไม้ไผ่ลำยาวหลายศตวรรษที่ผ่านมา ทุกหมู่บ้านจะมีคณะละครแสดงในสระน้ำหน้าดิงห์ หรือศาลาประชาคม เทคนิคการเล่นได้ถูกเก็บงำเป็นความลับอย่างมิดชิด แม้ปัจจุบันนี้ นักเชิดหุ่นอาวุโสทั้งหลายยังไม่ใคร่ยอมถ่ายทอดวิชาให้คนรุ่นหลัง แต่ด้วยเกรงว่าวิชาจะดับสูญบางท่านจึงยอมสอน ทุกวันนี้ มีคณะหุ่นเหลืออยู่ไม่มากนักในเวียดนาม ที่ฮานอยมีสองคณะ มีคณะหนึ่งตระเวนแสดงอยู่ตามมณฑลทางเหนือหลายมณฑล
  ทุกวันนี้ มีคณะหุ่นเหลืออยู่ไม่มากนักในเวียดนาม ที่ฮานอยมีสองคณะ มีคณะหนึ่งตระเวนแสดงอยู่ตามมณฑลทางเหนือหลายมณฑล ปกติแล้วการแสดงหุ่นจะมี 12 องค์ แต่ละองค์จะเป็นการเล่าเรื่องเทพตำนานเกี่ยวกับเวียนามและประวัติศาสตร์ นักดนตรีจะเล่นดนตรีแบบดั้งเดิมคลอไปด้วย มีเรื่องหนึ่งเล่าเกี่ยวกับเต่าใหญ่ที่อาศัยอยู่ในทะเลสาบฮว่านเกี๋ยมที่ฮานอย เต่าตัวนี้จะโผล่ขึ้นมาถวายดาบแก่พระเจ้าเลไทโต ซึ่งพระองค์ต้องการนำไปใช้ขับไล่ผู้รุกรานชาวจีน ส่วนเรือ่งอื่นๆ เล่าเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ในชนบท เช่น การเพาะปลูก การเกี่ยวข้าว การประมง การแข่งเรือ เป็นต้น

 โดยการแสดงหุ่นกระบอกน้ำจะมีวงดนตรีพื้นเมืองบรรเลงประกอบการแสดงเพื่อสร้างอรรถรสในการชม โดยตรงกลางเวทีจะมีบ่อน้ำขนาดใหญ่เพื่อใช้สำหรับการแสดงหุ่นกระบอกน้ำ

โดยผู้ชักหุ่นกระบอกน้ำจะอยู่หลังฉากโดยหน้าฉากก็จะตกแต่งไว้อย่างสวยงาม โดยผู้ชักหุ่นกระบอกจะยืนแช่น้ำครึ่งตัว โดยมีผู้ชักหุ่นกระบอกน้ำ 9 คน การแสดงหุ่นกระบอกน้ำ เปิดการแสดงวันละ 4 รอบ ตั้งแต่เวลา 15.30 น.  17.30 น. 18.30 น. 20.00 น. และ 21.15 น.  โดยการแสดงรอบละ 1 ชั่วโมง

 

 

อ้างอิง https://livetogo.tv

https://www.sac.or.th/databases/southeastasia

 http://www.snamcn.lib.su.ac.th

https://thaifly.com

 

# โรงละครหุ่นกระบอกน้ำ

 # Water Puppet


 

Comments