Skip to main content

Vietnamese Fan

Blog แชร์เรื่องราวต่างๆของประเทศเวียดนาม ทั้งอาหาร ภาษา และวัฒนธรรม

Search This Blog

Home
Place
Food
Language
About me

Showing posts from December, 2021

Posts

ทำเนียบประธานาธิบดี(Nha San Bac Ho / Ho chi Minh House)

December 30, 2021

+

Get link
Facebook
Twitter
Pinterest
Email
Other Apps

จัตุรัสบาดิ่ญ ( Quảng Trường Ba Đình)

December 25, 2021

+

Get link
Facebook
Twitter
Pinterest
Email
Other Apps

ที่เที่ยวฮานอย(Hanoi)

December 19, 2021

+

Get link
Facebook
Twitter
Pinterest
Email
Other Apps

เกาะกั๊ตบา(Cat Ba Island)

December 17, 2021

+

Get link
Facebook
Twitter
Pinterest
Email
Other Apps

ฮาซาง ดินแดนสวรรค์แห่งเวียดนามเหนือ(Hà Giang)

December 13, 2021

+

Get link
Facebook
Twitter
Pinterest
Email
Other Apps

สวนดอกไม้เมืองหนาว (Flower Garden Dalat)

December 10, 2021

+

Get link
Facebook
Twitter
Pinterest
Email
Other Apps

Miss grand international 2021(Vietnam)

December 09, 2021

Home

+

Get link
Facebook
Twitter
Pinterest
Email
Other Apps

วิธีทำพิซซ่าเวียดนาม (Bánh tráng nướng)

December 08, 2021

Food

+

Get link
Facebook
Twitter
Pinterest
Email
Other Apps

Labels

Food
Home
Language
Place

Total Pageviews

Aor Auemporn(Diem): แชร์และแบ่งปันเกี่ยวกับประเทศเวียดนาม

Popular Posts

พิซซ่าเวียดนาม (Bánh Tráng Nướng)

เมื่อกล่าวถึงสุดยอด อาหารstreet food คงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก "พิซซ่าเวียดนาม " Vietnamese Pizza หรือชื่อในภาษาเวียดนามคือ (Bánh Tráng Nướng) โดยพิ้นฐานอาหารกินเล่นชนิดนี้ ดูทำง่าย แต่การทำให้มีรสชาติอร่อยไม่ง่ายอย่างที่เราคิด โดยที่เราเห็นได้ทั่วไปคือ แป้งที่ปิ้งไฟ ใส่ไข่( เหมือนขนมโตเกียวบ้านเรา) ตอกไข่และทาบนแป้งสีแหลือง สอดไส้หมูสับและผักชี ราดด้วยซอส ย่างลงบนเตาถ่านร้อนๆ ปิ้งไปปิ้งมา แต่พิซซ่าเวียดนามจะมีแป้งที่แข็งกว่า ขนมโตเกียว พิซซ่าเวียดนาม (Bánh Tráng Nướng) พิซซ่าเวียดนามที่มี ชื่อเสียง มีอยู่ 2ที่คือ โฮจิมินห์และดานัง ใครเคยไปเที่ยวก็คงเคยสัมผัสบรรยากาศมาแล้ว บรรยากาศอากาศเย็นกับการลิ้มลงพิซซ่าร้อนๆ และแม้ว่าที่บ้านเราจะมี พิซซ่าเวียดนามขายอยู่หลากหลายที่แต่เชื่อว่า รสชาติสู้ต้นตำรับที่เวียดนามไม่ได้อย่างแน่นอน โดยปกติพิซซ่าเวียดนสามารถหารับประทานได้ทั่วไป ตามตลาดข้างทางหรือที่เราเรียกว่า Street food หรือที่จะแนะนำคือ Night Market " Thanh Pho Dalat" ซึ่งตลาดนี่อยู่ห่างจากโรงแรม Du Parc Hotel Dalat ห่างประมาณ 600-700 เมตร สามารถเดินไป

ถนน 36 สาย (Old Quarter)

ที่เที่ยวฮานอย นอกจากมีแหล่งธรรมชาติแล้ว ยังมีแหล่งช้อปปิ้งที่น่าสนใจ ดังนั้น ทางVietnamese Fan จึงอยากแนะนำแหล่งช้อปปิ้งชื่อดังอย่าง"ย่าน ถนน 36 สาย เก่า" ฮานอย หรือ ย่านเฝอเฟือง เป็น ถนน ในย่านเมืองเก่า Old Quarter ซึ่งเป็นแหล่งขายของที่ระลึกและสินค้าพื้นเมืองที่ใหญ่สุดใจกลางกรุง ฮานอย เป็นย่านหัตถกรรมที่มีประวัติยาวนานร่วม 600 กว่าปี ความพิเศษของ Old Quarter ก็คือ จะเป็นย่านที่มี ถนน ตัดผ่านมากถึง 36 สาย ด้วยกัน จึงเป็นที่มาของชื่อ ถนน บริเวณนี้นั่นเอง ถนน 36 สาย (Old Quarter) เมื่อเพื่อนๆมาเที่ยวที่ฮานอยชมก็พลาดไม่ได้ที่จะมา มาช้อปปิ้งกันให้สบายกระเป๋าที่ ถนน 36 สาย (Old Quarter) ซึ่งเป็น ย่านโบราณที่มีชื่อเสียงทางด้านงานหัตถกรรมและสินค้าพื้นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของกรุงฮานอย ซึ่งปัจจุบันมีประวัติยาวนานกว่า 600 ปี สาเหตุที่ต้องเรียกชื่อนี่ เนื่องมาจาก 36 อาชีพอันเก่าแก่ที่ทำมาค้าขายกันในย่านนี้ และยังเป็นย่านค้าขายที่คึกคักด้วยสินค้านานาชนิดทั้งของกิน เสื้อผ้า และของที่ระลึกที่เป็นทั้งผ้าไหม กระเป๋า หรือเครื่องเงินที่มีลวดลายปราณีตสวยงามมากมาย โดยจะแบ่งออกเป็นถ

หมวกเวียดนาม(Nón Lá )

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ วันนี้ Vietnamese Fan จะพาเพื่อนๆ มารู้จัก กับวัฒนธรรมของชาวเวียดนาม ที่ไม่ใช่ภาษา เสื้อผ้า การแต่งกาย แต่นั่น คือ" หมวกหรืองอบทรงแหลมๆ" ที่เราเห็นชาวเวียดนามใส่กัน เวลาเราเดินทางไปท่องเที่ยว ตอนแรก เราก็แปลกใจนิดนึงเพราะมันเป็นหมวกที่คล้ายกับของคนจีน ใส่กันในสมัยก่อน น่าจะเป็นเพราะว่าได้รับประเทศเวียดนามได้รับอิทธิพลมาจากประเทศจีนเหมือนๆกัน หมวกนี้มีชื่อเป็นทางการในภาษาเวียดนาม ว่า " Nón Lá (หนอน ลา) " หมวกนี้เป็นที่นิยม โดยเฉพาะพ่อค้าและแม่ค้าที่ใช้เพื่อป้องกันแดดและฝน แต่เพื่อนสงสัยกันบ้างรึเปล่า ว่าหมวกนี้มีที่มาจากไหน ราคาเท่าไรและทำอย่างไร ไปติดตามกันได้เลยค่ะ โดยในประเทศเวียดนาม มีหมู่บ้านทำหมวกแบบดั้งเดิมที่ Dong Di (Phu Vang) Da Le (Huong Thuy) Truong Giang โดยเฉพาะ" หมู่บ้านหมวก Phu Cam"(อยู่เมืองเว้) ซึ่งเป็น หมู่บ้านหัตถกรรมที่สร้างผลิตภัณฑ์อย่างประณีตและยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของท้องถิ่นอีกด้วย " หมวกเวียดนาม มีความแข็งแรง ผลิตจากใบลาน และยังมีหมู่บ้านอื่นๆที่เป็นแหล่งผลิตสำคัญ อีก เช่น ทางเวียดนามตอนเหนื

เทศกาลเเต๊ด (Tet)

เทศกาลทางศาสนาที่สำคัญที่สุดในช่วงต้นเดือน กุมภาพันธ์นี้ คงจะเป็นเทศกาลอื่นไปไม่ได้นอกจาก เทศกาล เต๊ดเหวียนดาน (Tet Nguyen Dan) ซึ่ง แปลว่า " เทศกาลแห่งรุ่นอรุณแรกของปี " ที่ชาวเวียดนาม นิยมเรียกกันว่า เทศกาลเเต๊ด (Tet) ซึ่งเริ่มต้นขึ้น ก่อน 1 สัปดาห์ก่อนที่จะถึงวันตามจันทรคติ คือ อยู่ระหว่างปลายเดือนมกราคมถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ในวันขึ้น 15 ค่ำ ของวันที่ดวงอาทิตย์อยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตรมากที่สุดในฤดูหนาว กับวันที่กลางวันยาวเท่ากับกลางคืนในฤดูใบไม้ผลิ เทศกาลนี้เป็นการเฉลิมฉลองในเรื่องของความเชื่อในเทพเจ้า ลัทธิเต๋า และขงจื้อ ศาสนาพุทธ รวมถึงการเคารพบรรพบุรุษ โดยรวมแล้วเทศกาลนี้ก็เหมือนกัน เทศกาลตรุษจีน ของคนไทยเชื้อชาติจีน โดย เทศกาลเเต๊ด (Tet) ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญทั้งยังเป็นเทศกาลศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวเวียดนามได้แสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษและเทพเจ้าที่ตนเคารพนับถือ ด้วยเครื่องเซ่นไหว้และอาหารนานาชนิด ทั้งยังเป็นช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองและการพบปะสังสรรค์กันภายในครอบครัวตลอดจนบุคคลอันเป็นที่รักและเคารพนับถือ บรรยากาศของเทศกาลอบอวลไปด้วยความสนุกสนานรื่นเริงดังความเชื่อที่ว่าเ

วัดเจดีย์เสาเดียว (One Pillar Pagoda)

มาตอนนี้นอกจากที่เพื่อนๆได้ทำความรู้จักสถานที่ท่องเที่ยวในฮานอยไปบ้างแล้ว แวะมาเที่ยววัดกันบ้าง ก็น่าจะดีไม่น้อย วัดนี้คือ "วัดเจดีย์เสาเดียว"(One Piilar Pagoda) วัดนี้ถูกสร้างมาเป็นพันปีแล้ว เพราะสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ .1049 เป็นศาลาขนาดเล็กตั้งอยู่บนเสาต้นเดียว ศาลาต้นนี้อยู่กลางสระบัวรูปสี่เหลี่ยม สร้างขึ้นเป็นพุทธบูชาแก่เจ้าแม่กวนอิม โดยมีตำนานเล่าว่า ในสมัยก่อนกษัตริย์ผู้ครองฮานอย พระเจ้าหลีไทโต ซึ่งครองราชย์ระหว่างปี ค .ศ.1028 -1054 อยากได้โอรส และรอคอยมาเป็นเวลานานมากแต่ก็ยังไม่มีสักที จนคืนหนึ่งทรงสุบินว่าเจ้าแม่กวนอิม ได้มาปรากฎที่สระบัวและพระราชทานโอรสให้กับพระองค์และหลังจากนั้นพระองค์ก็มีพระราชโอรสจริงๆ จึงได้มีการสร้างเจดีย์ขนาดเล็กที่ตั้งอยู่บนเสาต้นเดียวกลางสระบัวเพื่อเป็นการถวายสักการะแค่เจ้าแม่กวนอิม วัดเจดีย์เสาเดียว (One Pillar Pagoda) วัดนี้เป็นวัดที่เล็กมาก สมกับชื่อวัดเจดีย์เสาเดียว และมีชื่อเป็นภาษาเวียดนามว่า "จั่วโมดโกด" วัดเจดีย์เสาเดียวจริงๆ วัดเจดีย์เสาเดียวถูกสร้างเป็นแบบศาลาเก๋งจีนหลังเดียวขนาดเล็กอยู่บนเสาต้นเดียว ศาลานี่

ตึก Bitexco

Bitexco Financial Tower ( Tháp Tài chính Bitexco ) เป็นตึกระฟ้าในเมืองโฮจิมินห์ประเทศเวียดนาม ที่สร้างเสร็จสิ้นในปี 2010 และยัง เป็นอาคารที่สูงที่สุดในเวียดนาม และเก็บสถานะนี้จนถึงเดือนมกราคมปี 2011 ถูกค้นพบโดยKeangnam Hanoi Landmark Tower มี 68 ชั้นเหนือพื้นดินและสามชั้นใต้ดิน อาคารนี้มีความสูง 262.5 เมตร (861 ฟุต) ทำให้เป็นอาคารที่สูงเป็นอันดับสองในเมือง สูงเป็นอันดับที่ 5 ในเวียดนาม และสูงเป็นอันดับที่ 263 ของโลก ณ จุดเริ่มต้นของ 2018. ความพิเศษของตึก Bitexco ในนครโฮจิมินห์ คือ ติดอันดับ 1 ใน 25 ตึกระฟ้า ที่มีเอกลักษณ์ด้านการก่อสร้าง 25 แห่งของโลก มีลักษณะเป็นรูปของดอกบัวตูมขนาดยักษ์ ได้รับการก่อสร้างตามมาตรฐานสากล มีพื้นที่กว่า 37000 ตารางเมตร ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความรุ่งเรืองของนครที่ทันสมัยและคล่องตัว ที่ใช้ภาพดอกบัวตูม ซึ่งเป็น สัญลักษณ์แห่งวัฒนธรรมเวียดนามมาเป็นทัศนศิลป์ โดยจุดเด่นของอาคารอยู่ที่ลานจอดเฮลิคอปเตอร์บนชั้น52 ส่วนชั้นดาดฟ้ามีการประดับไฟให้ดูสว่างสวยงามยามค่ำคืนเหมือนหอประภาคารของนครโฮจิมินห์ " ตึก Bitexco " ก่อสร้างบนพื้นที่เกือบ6พัน

วัดเทียนหัว(Thien Hau Pagpda)

“วัดเทียนหัว” (Thien Hau Pagoda) หรือ “วัดเจ้าแม่สวรรค์”อยู่ในเขตไชน่าทาวน์ ถือเป็นวัดเก่าแก่อายุเกือบ 300 ปี เลยทีเดียว ซึ่งวัดแห่งนี้เป็นวัดจีนอันเป็นที่เคารพบูชาของชาวเวียดนามเชื้อสายจีน สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับแม่พระผู้คุ้มครองชาวเรือเปรียบได้กับศาลเจ้าแม่ทับทิมในบ้านเรานั้นเอง ซึ่งนอกจาก วัดแห่งนี้จะเป็นที่เคารพนับถือของชาวประมงและผู้ประกอบอาชีพเกี่ยวกับทะเลเป็นอย่างมากแล้ว วัดเทียนหาวยังโดดเด่นไปด้วยรูปเคารพเจ้าแม่ทับทิม เทพเจ้ากวนอู และรูปเคารพเทวรูปอื่นๆอีกหลายองค์ และเจดีย์สูงใหญ่แบบจีน วัดเทียนหัว จึงมีความโดดเด่น ด้วยรูปเคารพเจ้าแมาทับทิม เทพเจ้ากวนอู และรูปเคารพ เทวรูปอื่นๆอีกหลายองค์ วัด เทียนหัว(Thien Hau) วัดเทียน หัว อยู่ในย่านไชน่า ทาวน์ ในโฮจิมินห์ เป็นศาสนสถานศักดิ์สิทธิ์ จุดเด่นอยู่ด้านหน้าคือ ธูปที่เป็นรูปวงกลมรูปกรวย ห้อยที่เพดาน อาคารเดิมของวัดนี้เคยเป็นโบสถ์คริสต์ของอิตาลีในอดีตซึ่งเดิมคือลิตเติลอิตาลี อาคารถูกซื้อในปี 1980 ภายใต้ชุมชนศรัทธาที่เข้มแข็งทั้งในและนอกไชน่าทาวน์วัดสามารถระดมเงินบริจาคจำนวนมากเพื่อสร้างศาลาการเปรียญขนาดใหญ่ข

สวนสนุกวินเพิร์ลแลนด์ ญาจาง(Vinpearl Land Nha Trang )

สวัสดีค่ะ ชาว Vietnamese Fan หลังจากห่างหายจากการเขียนบล็อคไปซะนาน วันนี้กลับมาอีกครั้งพร้อม แนะนำ " อควาเรียมใหญ่ที่สุดในเวียดนาม" นั่น คือ" Vinpearl Land Nha Trang " ตั้งอยู่ในเมืองญาจาง เมืองตากอากาศติดทะเลยอดฮิตของเวียดนามใต้ เป็นหนึ่งในที่เที่ยวไฮไลท์ที่ใครๆ ก็ต้องมา เพราะวิวสวยมาก โดยพื้นที่ภายใน แบ่งออกเป็น 4 โซนหลักๆ ได้แก่ สวนน้ำ, เครื่องเล่น, อควาเรียม และสวนสัตว์ ซึ่งบอกได้เลยว่าเป็นศูนย์รวมความสนุกทุกรูปแบบ ไม่เพียงแค่เครื่องเล่นมันส์ๆ เท่านั้น แต่ยังมีโซนถ่ายรูปสวยๆ พร้อมทะเลเวียดนามใต้บรรยากาศชิลๆ เที่ยวได้ทุกเพศทุกวัยเลย ถ้าเพื่อนๆมาที่นี่ เพื่อนๆจะได้เพลิดเพลินไปกับโลกใต้ทะเลกับสัตว์น้ำนานาชนิด พร้อมด้วยโชว์สวยๆ อย่าง Mermaid Show การแสดงนางเงือก ที่จะจัดแสดงช่วง 11.00 น. และ 15.10 น. พร้อมด้วยโชว์กาให้อาหารปลา อยากชมต้องมาในเวลา 10.00 น. และ 17.00 น. ในสวนสนุกสวนสนุกวินเพิร์ลแลนด์ ญาจางนี้ ขอแนะนำ 4 โซน 👉โซนเครื่องเล่น ที่นี่มีทั้งสวนสนุกในร่มและกลางแจ้ง ชวนปลดปล่อยความสนุกไปกับเครื่องเล่นหลากหลายแนว ที่มีเครื่องเล่นรับประกันมาตร

ภูเขาหินอ่อน (Marble Mountains)

ภูเขาหินอ่อน (Marble Mountains) หรือ ที่เรียกในภาษาเวียดนามว่า "Ngũ Hành Sơn" ตั้ งอยู่ห่างจากตัวเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม ไปประมาณ 15 - 20 นาที ซึ่งจะอยู่ถนนเส้นที่เป็นทางผ่านไปฮอยอัน มีลักษณะเป็นยอดเขาสูงตั้งตระหง่านอยู่เหนือพื้นดิน 5 ลูก " เป็นความอัศจรรย์ที่ธรรมชาติสร้างขึ้นกลายเป็นทัศนียภาพที่สวยงามมาก" โดยมีการสันนิษฐานถึงต้นกำเนิดของภูเขาหินอ่อนทั้งห้าลูกนี้ว่า เกิดจากปลายยอดของภูเขาที่เมื่อเวลาผ่านไปนานๆ เปลือกโลกมีการเลื่อนและน้ำทะเลเหือดแห้ง กลายเป็นยอดสูงเหนือพื้นดิน 5 ลูก ดังที่เราเห็นกันในปัจจุบัน โดยภูเขาหินอ่อนห่างจากตัวเมืองดานังไปประมาณ 15 - 20 นาที ตั้งอยู่บนถนนที่เป็นทางผ่านไปฮอยอัน โดยมีการสันนิษฐานว่าภูเขาหินอ่อนนี้เกิดจากปลายยอดของภูเขา ที่เมื่อเวลาผ่านไปแล้วเปลือกโลกมีการเลื่อนและน้ำทะเลเหือดแห้ง จึงกลายเป็นยอดสูงเหนือพื้นดินอยู่ 5 ลูก เป็นความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่ชาวบ้านนำไปโยงกับตำนานนางฟ้าที่ลงมาพบรักและคลอดลูกออกมาเป็นไข่ โดยเปลือกไข่ที่แตกได้กลายเป็นภูเขาทั้ง 5 แทนธาตุสำคัญทั้ง 5 ธาตุ ได้แก่ ไม้ โลหะ พื้นดิน ไฟ และน้ำ ตามควา

สะพานแบ็กล็อง (Bach Long)

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ชาว Vietnamese Fan หลังจากห่างหายไปนานช่วงสงกรานต์ได้เดินทางไป เวียดนามในรอบ 2 ปีกว่า บอกเลยว่าตื่นเต้นมากมาย พอกลับมาก็เลยเริ่มกลับมาเขียนบทความอีกครั้ง เพื่อนำเสนอเรื่องราวใหม่ในประเทศเวียดนาม ไปติดตามกันเลยค่ะ เวียดนามเปิดตัวสะพานกระจกที่มีขนาดยาวที่สุดในโลก ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจังหวัดเซินลา (Son La) สะพานมีชื่อว่า "สะพานกระจกแบ็กล็อง "(Bạch Long) ตั้งอยู่ในตำบลเหมื่องซาง อำเภอหมกเจิว จังหวัดเซินลา ประเทศเวียดนาม และมีกำหนดเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้าชมตั้งแต่วันที่ 29 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา สะพานแห่งนี้มีความยาวรวม 632 เมตร ประกอบด้วย ส่วนที่พาดช่องเขา 290 เมตร และส่วนที่เป็นทางเดินริมผา 342 เมตร โดยมีความสูงจากพื้นดิน 150 เมตร สะพานแบ็กล็อง (Bach Long) "Bach Long "คือชื่อของสะพาน มีความหมายว่า "มังกรขาว" สะท้อนผ่านวัตถุที่ทำสะพานเป็นโลหะที่มีสีขาวสว่างยึดพื้นกระจกใส มีความสูงจากพื้นดินราว 150 เมตร รองรับผู้คนได้ครั้งละ 450 คน พื้นกระจกทำจากกระจกเทมเปอร์ เป็นกระจกนิรภัยชนิดหนึ่งที่ผลิตจากบริษัทแชง โกแบง (Saint-Gobain) จากประเทศฝร

Archive

2020 88
- May 1
- June 25
- July 18
- August 17
- September 15
- October 8
- November 2
- December 2

2021 37
2022 20
- January 3
- February 4
- March 5
- April 3
- May 2
- June 1
- July 1
- August 1

Show more Show less

Keyword

Food15
Home17
Language7
Place107

Report Abuse

Powered by Blogger

Theme images by A330Pilot